สรุปเคมี - สารชีวโมเลกุล
- ธาตุใด จะสามารถบ่งบอกได้ว่าสารใดเป็น “สารอินทรีย์” หรือสารใดเป็น “สารอนินทรีย์” ... C H
- สารประกอบที่พบมากที่สุดในสิ่งมีชีวิต คือ ... น้ำ
- “น้ำ” เป็นสารประกอบที่มีพันธะเฉพาะภายในโมเลกุล คือพันธะใด ... พันธะไฮโดรเจน
- คำว่า “คาร์บอนอิ่มตัวด้วยน้ำ” หมายถึงคาร์โบไฮเดรตที่มีอัตราส่วนของไฮโดรเจนและออกซิเจนเป็น ... H : O = 2 : 1
- น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวพบหมู่ฟังก์ชัน ... คาร์บอนิลและไฮดรอกซิล
- น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวเป็นน้ำตาลที่ประกอบไปด้วยธาตุคาร์บอนจำนวนเท่าไร ... 3-7 อะตอม
- น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่มีความสำคัญมากต่อสิ่งมีชีวิตคือ ... น้ำตาลกลูโคส
- เหตุใดที่น้ำตาลกลูโคสจึงมีความสำคัญต่อสิ่งมีชีวิต ... เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญและสลายตัวเป็นพลังงานได้เร็วที่สุด
- ระหว่าง “กลูโคส กาแลกโทส ฟรักโทส” น้ำตาลชนิดใดที่มีโครงสร้างโมเลกุลที่ต่างจากพวก ... ฟรักโทส (เพราะเป็นโครงสร้างที่จำลองออกมาเป็นรูปห้าเหลี่ยม ขณะที่กลูโคสและกาแลกโทสจะออกมาเป็นรูปหกเหลี่ยม)
- เหตุใด “น้ำตาลฟรักโทส” จึงเป็นน้ำตาล “คีโตเฮกโซส” (Keto-Hexose) ... เพราะโครงสร้างของฟรักโทส ส่วนของหมู่คาร์บอนิลนั้นมาอยู่ที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 2 อีกทั้งไม่มีไฮโดรเจนมาเกาะกับคาร์บอนในตำแหน่งนี้
- น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวรวมตัวกันตั้งแต่ 2 – 10 โมเลกุลจะเรียกว่า ... โอลิโกแซ็กคาไรด์
- ระหว่าง “Oligosaccharide” และ “Disaccharide” แตกต่างกันอย่างไร … Oligosaccharide เป็นน้ำตาลโมเลกุลขนาดหนึ่ง ที่ประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวรวมตัวกันตั้งแต่ 2-10 โมเลกุล ขณะที่ Disaccharide เป็นน้ำตาลโมเลกุลคู่ที่มีองค์ประกอบเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุล
- พันธะเคมีที่เชื่อมระหว่างน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวแต่ละโมเลกุล ในโอลิโกแซ็กคาไรด์ เรียกว่า ... พันธะไกลโคซิดิก
- ปฏิกิริยาการรวมตัวกันของโมเลกุลย่อยที่มีน้ำเข้ามาเกี่ยวเนื่องในปฏิกิริยา เราเรียกปฏิกิริยานี้ว่า ... Dehydration
- “Condensation Polymerization” เป็นปฏิกิริยาที่มีลักษณะเดียวกันกับ ... Dehydration
- ปฏิกิริยา Dehydration ระหว่างน้ำตาลเฮกโซสนั้น เกิดขึ้นอย่างไร ... เกิดขึ้นใน 2 กรณีใหญ่ๆ
- มอลโทสและแลกโทส - จากการที่หมู่ไฮดรอกซิล (OH) ที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 1 ของน้ำตาลโมเลกุลหนึ่งรวมกับไฮโดรเจน (H) ที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 4 ของน้ำตาลอีกโมเลกุลหนึ่ง
- ซูโครส - จากการที่หมู่ไฮดรอกซิล (OH) ที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 1 ของน้ำตาลกลูโคสรวมกับไฮโดรเจน (H) ที่คาร์บอนตำแหน่งที่ 5 ของน้ำตาลอีกฟรักโทส
- “น้ำตาลนม” หมายถึง ... น้ำตาลแลกโทส
- น้ำตาลโมเลกุลคู่ชนิดใดมี “ความหวาน” มากที่สุด ... น้ำตาลซูโครส
- โดยทั่วไปแล้วนั้น Dextrin เป็นผลิตภัณฑ์อันเกิดจากการย่อยอาหารประเภทใด ... แป้ง
- คุณสมบัติของพอลิแซ็กคาไรด์ที่เด่นชัด คือ ... ไม่ละลายน้ำ ไม่มีความหวาน
- พอลิแซ็กคาไรด์ชนิดใด โครงสร้างเป็นแบบเส้นตรง ... เซลลูโลส
- แป้งนั้น เป็นพอลิแซ็กคาไรด์ที่มีโครงสร้าง 2 รูปแบบ คือ ... อะไมโลส อะไมโลเพกติน
- ความแตกต่างระหว่าง “Amylose” และ “Amylopectin” คือ ... การเรียงตัวกันของกลูโคส ที่ Amylose จะเรียงตัวกันเป็นสายยาว ส่วน Amylopectin จะเรียงตัวต่อกันเป็นสายยาวและมีแขนงแตกกิ่งก้าน
- สารอินทรีย์ใดที่มีมากที่สุดในโลก ... เซลลูโลส
- “เซลลูโลส” พบในส่วนใดของเซลล์พืช ... Cell Wall (ผนังเซลล์)
- ความแตกต่างระหว่าง “แป้ง” และ “ไกลโคเจน” คือ ... แหล่งที่พบ (แป้งพบในเซลล์พืช ไกลโคเจนพบในเซลล์สัตว์) และโครงสร้างที่ไกลโคเจนมีกิ่งก้านมากกว่าแป้ง
- เหตุใด “อะไมเลส” ไม่สามารถสลายเซลลูโลสได้ ... เพราะในเซลลูโลสประกอบไปด้วยกลูโคสที่เชื่อมกันแบบ Beta-Glycosidic Linkage ทำให้ไม่สามารถสลายได้ โดยทั่วไป “อะไมเลส” จะสามารถสลายกลูโคสที่เชื่อมกันแบบ Alpha-Glycosidic Linkage ซึ่งเป็นโครงสร้างที่พบในอะไมโลส
- แหล่งพลังงานสำคัญของมนุษย์ จะถูกเก็บไว้ในรูปใดมากที่สุด ... ไกลโคเจน
- “ข้าวเหนียว” และ “ข้าวเจ้า” แตกต่างกันอย่างไร … แตกต่างกันตรงที่เนื้อแข็งในเมล็ด ทั่วไปแล้ว Amylose มีความอ่อนนุ่มกว่า Amylopectin เนื่องจากโครงสร้างที่ Amylose เป็นเส้นตรง ส่วน Amylopectin เป็นเส้นกิ่งซึ่งมีความแข็งแรง ดังนั้นเมล็ดข้าวเจ้าประกอบด้วย Amylose เพียงร้อยละ 15-30 ส่วนเมล็ดข้าวเหนียวประกอบด้วยมี Amylose เพียงร้อยละ 5-7 จึงเป็นเหตุที่ทำให้ข้าวเหนียวใช้เวลาในการย่อยสลายในระบบย่อยอาหารนานกว่าข้าวเจ้า
- “ไคติน” เป็นคาร์โบไฮเดรตที่พบในสิ่งมีชีวิตประเภทใด ... กุ้ง ปู สัตว์ที่มีโครงร่างภายนอก (Exoskeleton)
- พอลิแซ็กคาไรด์โครงสร้าง (Structual Polysaccharide) ทำหน้าที่อะไร ... เป็นองค์ประกอบหนึ่งของสิ่งมีชีวิต เช่น เป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์ เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของสัตว์ชั้นสูง
- ความสำคัญสูงสุดของคาร์โบไฮเดรต คือ ... นำไปสลายเพื่อให้ได้พลังงานเพื่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต
- โครงสร้างใดของแป้งที่ทำปฏิกิริยาใน Iodine Test แล้วเกิดสารสีน้ำเงินเข้ม ... Amylose
- “Water Bath” คือ ... การนำหลอดทดลองที่ต้องการให้ความร้อนเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการทดลองลงไปแช่ในน้ำที่กำลังต้มให้ร้อนในบีกเกอร์อีกใบ แทนการนำไปโดนกับความร้อนโดยตรง
- การทดสอบหาน้ำตาลซูโครสในอาหารทำได้อย่างไร ... ใช้วิธีการแบบ Benedict Test แต่ก่อนการทดลองให้หยดกรดไฮโดรคลอริกลงไปก่อน เพื่อให้กรดไฮโดรคลอริกเป็นตัวช่วยให้เกิดปฏิกิริยาการทดลองก่อน
- โปรตีนมีหน่วยย่อยเรียกว่า ... กรดอะมิโน (Amino Acid)
- ธาตุองค์ประกอบหลักของโปรตีนได้แก่ ... C H O N
- โครงสร้างหลักของกรดอะมิโน จะประกอบด้วยหมู่ฟังก์ชันอะไรบ้าง ... Carboxyl (C-Terminal) และ Amine (N-Terminal)
- การที่เราจะบอกความแตกต่างของกรดอะมิโนได้นั้น จะแบ่งได้จากโครงสร้างส่วนใดของกรดอะมิโน ... โซ่ข้าง หรือ Side Chain หรือ R-Chain ที่ประกอบไปด้วยธาตุที่แตกต่างกัน
- “ฮีสทีดีนและอาร์จีนิน” โดยทั่วไปจัดเป็นกรดอะมิโนจำเป็น และเหมาะกับวัยใด ... เด็ก
- การนำกรดอะมิโนมาต่อกันนั้นเป็นเพปไทด์สายยาวๆ พันธะที่เชื่อมกันระหว่างกรดอะมิโนแต่ละตัวจะเชื่อมกันเป็นพันธะโคเวเลนต์ที่เรียกว่า ... พันธะเพปไทด์ (Peptide Bond)
- ลักษณะการรวมกันเป็น Polypeptide นั้น จะมีปฏิกิริยา “Dehydration” ขึ้นหรือไม่ อย่างไร ... มีปฏิกิริยา Dehydration กล่าวคือ หากมีการเชื่อมกัน 1 พันธะเพปไทด์จะมีน้ำเกิดขึ้น 1 โมเลกุล
- ลักษณะของ Polypeptide ปลายของทั้งสองข้างจะมีลักษณะอย่างไร ... ปลายทั้งสองข้าง ปลายข้างหนึ่งจะเป็นหมู่ Amine หรือ N-Terminal และปลายอีกข้างหนึ่งจะเป็นหมู่ Carboxyl หรือ C-Terminal
- หากมีกรดอะมิโน n แบบที่แตกต่างกันแบบละ 1 โมเลกุล เราจะสามารถสร้างโปรตีนชนิดที่แตกต่างกันได้ทั้งหมดจำนวนกี่ชนิด ... n x (n-1) x (n-2) x … x 3 x 2 x 1 ชนิด หรือ n! ชนิด
- กรดอะมิโนที่เป็นกรดนั้น จะมีคุณสมบัติสำคัญอย่างไร ... จะแตกตัวให้ประจุลบที่ pH 7 บางตัวจะละลายน้ำได้ดี
- การที่กรดอะมิโนไม่มีขั้ว ก่อให้เกิดคุณสมบัติทางโครงสร้างอย่างไร ... มีความยืดหยุ่นทางโครงสร้างมากยิ่งขึ้น
- ความแตกต่างของ “กรดอะมิโนจำเป็น” (Essential Amino Acid) และ “กรดอะมิโนไม่จำเป็น”(Non-Essential Amino Acid) คือ ... โครงสร้างแตกต่างกัน แหล่งที่พบ พบทั้งในอาหารและร่างกาย การสร้างภายในร่างกาย
- ความแตกต่างระหว่าง “โครงสร้างโปรตีนปฐมภูมิ” และ “โครงสร้างโปรตีนทุติยภูมิ” ในด้านรูปร่างโมเลกุล คือ ... โครงสร้างโปรตีนปฐมภูมิมีรูปร่างโมเลกุลเป็นสายตรงยาว ขณะที่โครงสร้างโปรตีนทุติยภูมิมีรูปร่างโมเลกุลเป็นสายตรงยาวแล้วนำมาบิดเกลียวหรือเป็นแผ่นทบกันไปมา
- “การเกิดพันธะไดซัลไฟด์ในกรดอะมิโนซิสเทอีน” เป็นปฏิกิริยาที่พบในโปรตีนโครงสร้างระดับใด ... โครงสร้างโปรตีนแบบปฐมภูมิ
- ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดของคุณสมบัติระหว่าง “Alpha-Helix” และ “Beta-pleated sheet” คือ ... ความคงทนของโครงสร้าง โดย Alpha-Helix นั้นมีความคงตัวของโครงสร้าง ส่วน Beta-pleated sheet โครงสร้างมีความยืดหยุ่นแต่ไม่ทนทาน
- ปัจจัยใดที่ทำให้โครงสร้างโปรตีนแบบทุติยภูมิ แบบเกลียวแอลฟา มีความคงทน และคงตัวมาก ... พันธะที่เชื่อมระหว่างอะตอมไฮโดรเจนกรดอะมิโนตัวหนึ่งกับอะตอมออกซิเจนของกรดอะมิโนอีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นพันธะไฮโดรเจน เกิดขึ้นหลายแห่ง ทำให้โครงสร้างสามารถคงสภาพบิดเกลียวในลักษณะเดียวกับเชือกได้
- รูปร่างโครงสร้างโปรตีนแบบใด มีรูปร่างเป็นก้อนม้วน ... โครงสร้างโปรตีนแบบตติรภูมิ
- คอนจูเกตโปรตีน หรือโปรตีนซับซ้อน (Conjugated Protein) คือ ... โปรตีนที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนและสารอื่นๆประกอบอยู่ด้วย เช่น Lipoprotein Nucleoprotein ฯลฯ
- โครงสร้างโปรตีนแบบจตุรภูมินั้น จะประกอบไปด้วย Polypeptide อย่างน้อยกี่สายรวมกัน ... 3-4 สายขึ้นไป
- พันธะไฮโดรเจนที่พบในสาย polypeptide ส่งผลอย่างไรต่อรูปร่างโมเลกุล ... เกิดรูปร่างในลักษณะขด ม้วน หรือพับทบในสายเดียวกัน
- หน้าที่ของโปรตีน คือ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และเป็นตัวช่วยในการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต
- เพราะเหตุใด หากเรานำไข่ไปทอดแล้ว สีและลักษณะทั้งหมดเปลี่ยนแปลงไป ... เพราะความร้อนนั้นทำให้โปรตีนในไข่เสียสภาพไป หรือกระบวนการ Denaturation Protein
- “เอนไซม์” จัดเป็นสารประเภทใด ... โปรตีน
- “โปรตีนที่ไม่สมบูรณ์” เรียกได้อีกอย่างว่า ... โปรตีนจากพืช
- การสังเคราะห์โมเลกุลโปรตีน ขึ้นอยู่กับสิ่งใด ... DNA บนโครโมโซมในนิวเคลียส
- โปรตีนลักษณะใดที่เรียกว่าโปรตีนไม่ซับซ้อน ... โปรตีนที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนเพียงอย่างเดียว ไม่มีสารอื่นเจือปน
- ลักษณะของโปรตีนที่ทำหน้าที่สะสม มีจุดประสงค์เพื่ออะไรเป็นสำคัญ ... เป็นอาหารของสิ่งมีชีวิต
- การทอด “ไข่เจียว” มีการสูญเสียสภาพโปรตีน โดยปัจจัยใด ... ความร้อน
- Denaturation คือ ... การเปลี่ยนแปลงสภาพตามธรรมชาติของโปรตีนที่ปกติทำงานได้ดี ให้กลายเป็นโปรตีนที่ทำงานได้น้อยลงหรือสูญเสียหน้าที่ไป หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติอื่นๆ ของโปรตีนด้วย โดยปัจจัยต่างๆ เช่น ความร้อน สารเคมี
- Denaturation จะพบเห็นได้ชัดเจนในโครงสร้างโปรตีนระดับใด ... พบได้ในทุกระดับ แต่จะเด่นชัดคือโครงสร้างโปรตีนระดับตติยภูมิ
- ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดกระบวนการ Renaturation ในโปรตีน ... การที่โครงสร้างของโปรตีนไม่ได้ถูกทำลายหมด ยังเหลือโครงสร้างระดับปฐมภูมิหรือทุติยภูมิ ซึ่งขึ้นอยู่กับความดันและ pH ซึ่งหลักการนี้จะพบในเอนไซม์ต่างๆ ในร่างกายเท่านั้น
- โดยทั่วไปแล้ว “โปรตีน” สามารถเก็บเป็นพลังงานในรูปใดในร่างกาย ... รูปของกลูโคสที่จะแปรสภาพต่อไปเป็นไกลโคเจน
- วิธีการใดที่สามารถตรวจสอบว่าสารนี้มี “โปรตีน” เป็นองค์ประกอบหรือไม่ ... Biuret Test (ใช้คอปเปอร์ซัลเฟต+โซเดียมไฮดรอกไซด์) และ Xanthoproteic Test (ใช้กรดไนตริก)
- ความแตกต่างระหว่าง “ลิพิด” และ “คาร์โบไฮเดรต” ในเรื่ององค์ประกอบธาตุ คือ ... อัตราส่วนระหว่างไฮโดรเจนต่อออกซิเจนของลิพิดไม่เท่ากับ 2 : 1 แบบเดียวกับคาร์โบไฮเดรต
- มอนอเมอร์ของไขมัน-น้ำมัน คืออะไร ... กลีเซอรอล และกรดไขมัน
- “ไตรกลีเซอไรด์” มีอัตราส่วนระหว่างกลีเซอรอลและกรดไขมันเท่าไร ... 1 : 3
- “R-COOH” เป็นสูตรทั่วไปของกรดไขมันแบบใด ... กรดไขมันอิ่มตัว
- พันธะที่เชื่อมระหว่างกรดไขมันและกลีเซอรอล มีชื่อว่า ... Ester Bond
- การแบ่งที่ง่ายที่สุดว่ากรดไขมันใดเป็นกรดไขมันอิ่มตัว กรดไขมันใดเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว คือดูจากอะไร ... โครงสร้างทางเคมีของกรดไขมัน หากมีพันธะคู่ปรากฏอยู่ในโครงสร้างจะเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว
- ความแตกต่างของ “กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว” และ “กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน” คือ จำนวนพันธะคู่ที่พบในโครงสร้างของกรดไขมันไม่อิ่มตัว หากมีตำแหน่งเดียวจะเป็นเชิงเดี่ยว แต่ถ้าหากมากกว่า 1 ตำแหน่งจะจัดเป็นเชิงซ้อน
- จำนวนโมเลกุลของน้ำที่เกิดขึ้นระหว่างปฏิกิริยา Dehydration ในการรวมตัวกันระหว่างกรดไขมันและกลีเซอรอล จะขึ้นอยู่กับอะไร ... จำนวนโมเลกุลของกรดไขมันที่มาเกาะกับกลีเซอรอล
- “ไข” มีองค์ประกอบที่แตกต่างจาก “ไขมัน” อย่างไร ... ไขมีองค์ประกอบเป็นกรดไขมัน 1 โมเลกุลรวมกับแอลกอฮอล์ที่ไม่ใช่กลีเซอรอล 1 โมเลกุล ส่วนไขมันมีองค์ประกอบเป็นกรดไขมัน 3 โมเลกุลรวมกับกลีเซอรอล 1 โมเลกุล
- เหตุใดไขมันสัตว์ (fat) ส่วนมากเป็นของแข็ง ... เพราะองค์ประกอบมีกรดไขมันอิ่มตัวมาก
- ลิพิดประกอบ ที่พบใน “เยื่อหุ้มเซลล์” คืออะไร ... ฟอสโฟลิพิด (Phospholipid)
- โครงสร้างของ Phospholipid ในส่วนที่ชอบน้ำนั้น จะเป็นโครงสร้างส่วนใด ... หมู่ฟอสเฟต
- สิ่งหนึ่งที่ทำให้เยื่อหุ้มเซลล์เป็นเยื่อเลือกผ่าน คือ ... Phospholipid ประกบกันหน้าหลังเป็น 2 ชั้นทำให้ส่วนที่ชอบน้ำอยู่ด้านนอก และการแพร่สารเข้าไป สารที่จะแพร่เข้าไปได้ต้องเป็นสารที่ละลายในไขมัน ขณะที่สารที่ไม่ละลายในไขมัน จะต้องใช้โปรตีนและพลังงานเพิ่มเข้าไป
- 7-Dehydrocholesterol ที่ผิวหนัง มีหน้าที่อะไร ... สังเคราะห์รังสี UV เป็น วิตามิน ดี
- “ไกลโคลิพิด” เป็นลิพิดประกอบที่พบในที่ใดของร่างกายมนุษย์ ... เยื่อไมอีลิน (ปลอกหุ้ม Axon ของเซลล์ประสาท)
- โครงสร้างของ “Steroid” มีลักษณะอย่างไร ... เป็นวงแหวนคาร์บอน 5-6 อะตอมต่อเชื่อมกัน 4 วง
- โดยทั่วไปแล้ว Cholesterol ลำเลียงภายในเลือดอยู่ในรูปลิพิดเชิงซ้อนชนิดใด ... Lipoprotein
- หน้าที่ “Steroid” หลักๆ ในร่างกายคือ ... สารตั้งต้นในการสร้างฮอร์โมนเพศและฮอร์โมนอื่นๆ
- “เนยเทียม” จัดเป็นไขมันที่มีองค์ประกอบของกรดไขมันแบบใด ... กรดไขมันอิ่มตัว
- คุณสมบัติทั่วไปของกรดไขมันธรรมชาติ มีลักษณะอย่างไร ... แกนโมเลกุลเป็นคาร์บอน จำนวนเป็นคู่ เรียงเป็นสายยาว ไม่แตกแขนง
- กรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ คือ ... กรดไลโนเลอิก กรดไลโนเลนิก
- กรดไขมันที่ไม่อิ่มตัว จะมีลักษณะโครงสร้างที่นอกจากมีการเชื่อมเป็นพันธะคู่แล้ว ยังมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไร ... สายกรดไขมันจะไม่ยาวมาก จะอยู่ที่คาร์บอน 4-8 หรือ 10-12 อะตอม
- ลักษณะสำคัญที่ทำให้เห็นได้ชัด และสามารถแยกกรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันไม่อิ่มตัวได้อย่างชัดเจน นอกจากเรื่องของแหล่งที่พบแล้ว คือเรื่องใด ... กลิ่นเหม็นหืน โดยกรดไขมันไม่อิ่มตัวจะมีกลิ่นหืนง่ายกว่ากรดไขมันอิ่มตัว
- หน่วยย่อยของกรดนิวคลีอิกนั้น เรียกว่าอะไร ... นิวคลีโอไทด์
- องค์ประกอบของนิวคลีโอไทด์ ได้แก่อะไรบ้าง ... น้ำตาลเพนโทส ไนโตรเจนเบส และหมู่ฟอสเฟต
- ระหว่าง “นิวคลีโอไทด์” และ “นิวคลีโอไซด์” ต่างกันในเรื่องโครงสร้างอย่างไร ... ต่างกันในเรื่องขององค์ประกอบที่ปรากฏในส่วนของ “หมู่ฟอสเฟต” โดยปรากฏเพียงแค่ในนิวคลีโอไทด์ได้เท่านั้น
- พันธะที่เชื่อมกันระหว่างนิวคลีโอไทด์แต่ละตัวนั้น มีชื่อเฉพาะว่าอะไร ... Phosphodiester Bond
- ความแตกต่างของ “น้ำตาลไรโบส” และ “น้ำตาลดีออกซีไรโบส” คือ จำนวนอะตอมของออกซิเจนในโมเลกุล ที่ส่งผลถึงสัดส่วน โดยน้ำตาลดีออกซีไรโบสมีออกซิเจน 4 อะตอม ในขณะที่น้ำตาลไรโบสมีออกซิเจน 5 อะตอม
- DNA และ RNA มีหน้าที่หลัก คือ ... เป็นแหล่งเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมและถ่ายทอดลักษณะสิ่งมีชีวิตแก่รุ่นถัดไป
- โดยทั่วไปแล้ว DNA มีความสำคัญในการเป็นต้นแบบของการสังเคราะห์สารชีวโมเลกุลชนิดใดให้กับเซลล์ ... โปรตีน
- RNA สามารถพบพันธะไฮโดรเจนระหว่างเบสหรือไม่ ... ไม่พบ เพราะว่า RNA เป็นสายเดี่ยว ไม่มีพันธะเชื่อมกันระหว่างคู่เบสแน่นอน
- การสังเคราะห์โปรตีนของ DNA จะถูกสังเคราะห์ผ่านอะไร ... mRNA
- การสังเคราะห์โปรตีนของ mRNA เกิดขึ้นที่ใด ... ในไซโทพลาสซึม – ไรโบโซม
- ลักษณะของ RNA ที่แตกต่างจาก DNA ได้แก่อะไรบ้าง ... น้ำตาลเพนโทส (RNA : Ribose, DNA : Deoxyribose) ไนโตรเจนเบส (RNA : U, DNA : T) จำนวนสาย (RNA : 1, DNA : 2)
- ลักษณะของสาย DNA มีลักษณะคล้ายกับอะไร ... ขั้นบันไดเวียน
- พันธะที่เชื่อมระหว่างคู่เบสนั้น เป็นพันธะอะไร ... พันธะไฮโดรเจน
- Complementary Nitrogenous Base พบในที่ใด ... DNA
- Complementary ของเบส Purine คือ ... Pyrimidine
- “หาก DNA สายหนึ่งมีลักษณะเป็น 5’ – 3’” ข้อความ “5’ - 3’” คืออะไร ... หมายถึงลักษณะของปลายข้างหนึ่งของสาย DNA มีตำแหน่งที่ 5 ของคาร์บอนในน้ำตาลดีออกซีไรโบส อีกข้างเป็นตำแหน่งที่ 3 ของคาร์บอนในน้ำตาลดีออกซีไรโบส ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เชื่อมต่อกับหมู่ฟอสเฟตของนิวคลีโอไทด์ตัวถัดไป
- ลักษณะของ 5’- 3’- 5’– 3’– 5’ และ 3’ – 5’ – 3’ – 5’ – 3’ มีลักษณะคล้ายกันกับอะไร ... รถไฟกลับหัวไปมามาเรียงกัน
- รหัสพันธุกรรมใน DNA คือ ... ลำดับที่แตกต่างกันของเบสของนิวคลีโอไทด์ที่เรียงต่อกัน
- ลักษณะเฉพาะของสารชีวโมเลกุล คือ พบในสิ่งมีชีวิตเท่านั้น
- ไกลโคเจนเป็นคาร์โบไฮเดรตที่พบเพียงในคนและสัตว์
- น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวที่มีความสำคัญต่อร่างกายมากที่สุด คือ น้ำตาลกลูโคส
- น้ำนมของคนและสัตว์ จะพบน้ำตาลแลกโทสและกาแลกโทสเป็นองค์ประกอบ
- เส้นใยอาหาร มีประโยชน์ต่อร่างกายคือ ดูดซับกลูโคสและคอเลสเทอรอลไม่ให้ดูดซึมผ่านลำไส้
- โครงสร้างของพอลิแซคคาไรด์ที่แตกต่างจากพวก คือ ไกลโคเจน เป็นโครงสร้างแบบกิ่ง ส่วนแป้งและเซลลูโลสเป็นโครงสร้างแบบเส้นตรง
- ปฏิกิริยาการหมัก เป็นปฏิกิริยาที่แปรสภาพแป้งให้เป็นเอทานอล ผ่านยีสต์เป็นตัวทำปฏิกิริยา
- กลไกในการดึงไกลโคเจนที่สะสมไว้ในร่างกายมาใช้ประโยชน์ ต้องอาศัยปฏิกิริยาการหายใจระดับเซลล์
- อินซูลิน เป็นสารจำพวกโปรตีน
- ไตรกลีเซอไรด์ เกิดจากการรวมตัวของกรดไขมัน 3 โมเลกุลและกลีเซอรอล 1 โมเลกุล
- ไขมันเรียกเมื่ออยู่ในสถานะของแข็ง น้ำมันเรียกเมื่ออยู่ในสถานะของเหลว
- กรดไขมัน มีหมู่ฟังก์ชัน –COOH หรือหมู่ฟังก์ชันคาร์บอกซิล
- กรดไขมันที่มีพันธะเดี่ยวตลอดเส้น จัดเป็นกรดไขมันอิ่มตัว กรดไขมันที่มีพันธะคู่บางจุดหรือพันธะสามบางจุด จัดเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว
- น้ำมันพืชบางประเภทมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่าน้ำมันสัตว์ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับองค์ประกอบภายในน้ำมันแต่ละชนิด
- เราเรียกกรดไขมันที่ร่างกายสังเคราะห์ไม่ได้ แต่ร่างกายต้องการจากสารอาหารว่า กรดไขมันจำเป็น
- ปฏิกิริยา Hydrogenate พบในอุตสาหกรรมการทำเนยเทียม มาการีน ครีมเทียม
- ประโยชน์ของวิตามิน E ในน้ำมันพืช เพื่อลดและชะลอกลิ่นเหม็นหืนในน้ำมัน
- ประโยชน์ ของคอเลสเทอรอล คือ สร้างสารตั้งต้นของฮอร์โมนเพศ สร้างน้ำดี เป็นฉนวนเส้นประสาท ที่สำคัญ เป็นตัวแปลงแสงอาทิตย์ให้เป็นวิตามินดี (รับในปริมาณพอดี)
- โปรตีน มีองค์ประกอบหมู่ฟังก์ชัน –NH2 หรือหมู่อะมิโน ที่เป็นเบส และ หมู่ฟังก์ชัน –COOH หรือหมู่คาร์บอกซิลที่เป็นกรด
- พันธะที่เชื่อมระหว่างกรดอะมิโน เรียกว่า พันธะเพปไทด์
- กระบวนการที่ทำให้โปรตีนไม่สามารถทำงานได้เหมือนเดิม เมื่อสัมผัสความร้อน สารกรด-เบส เรียกการแปลงสภาพโปรตีน
- DNA กับ RNA ต่างกันตรงที่องค์ประกอบ โดย DNA มีน้ำตาลดีออกซีไรโบส หมู่ฟอสเฟต เบส A G C T ส่วน RNA มีน้ำตาลไรโบส หมู่ฟอสเฟต และเบส A G C U
- การทดสอบแป้ง จะใช้สารละลายไอโอดีน โดยเปลี่ยนจากน้ำตาลเป็นน้ำเงินหรือม่วง
- การทดสอบโปรตีน ใช้สารละลายไบยูเรต (โซเดียมไฮดรอกไซด์+คอปเปอร์ซัลเฟต) โดยเปลี่ยนจากฟ้า เป็นม่วง
- การทดสอบน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวและคู่ (ไม่รวมซูโครส) จะใช้สารละลายเบเนดิกต์ เร่งปฏิกิริยาด้วยการนำไปต้ม โดยเปลี่ยนจากฟ้าเป็นเขียว เหลือง น้ำตาล และแดงอิฐ ส่วนน้ำตาลซูโครสต้องหยดกรดไฮโดรคลอริกผสมไปด้วย ถึงจะได้ผลออกมาเช่นกัน (ให้กรดสลายพันธะให้เหลือน้ำตาลกลูโคสและซูโครส)
- การทดสอบน้ำตาลผ่านแป้ง ต้องหยดกรดไฮโดรคลอริก ให้เข้าไปสลายพันธะเคมีให้เหลือเพียงกลูโคส ถึงจะสามารถใช้ชุดทดสอบเบเนดิกต์ได้
- การทดสอบหากรดไขมันอิ่มตัวและกรดไขมันไม่อิ่มตัว จะใช้การนำน้ำมันไปต้ม แล้วหยดด้วยทิงเจอร์ไอโอดีน แล้วนับจำนวนหยด
- การทดสอบว่าอาหารนี้มีไขมันหรือไม่ ทำได้โดยกระดาษขาวทาบ หากพบไขมัน กระดาษจะโปร่งแสง
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น